น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญในการอุปโภคและบริโภค แต่ในปัจจุบันเราไม่สามารถนำน้ำมาใช้ได้โดยตรง เนื่องมาจากการปนเปื้อนของสารต่าง ๆ จากการปล่อยน้ำที่ใช้งานแล้วลงในแหล่งน้ำ ดังนั้นน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้วจึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนที่จะปล่อยลงกลับคืนสู่แหล่งน้ำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
นางสาวสิริลักษณ์ เอกวงษ์ นางสาวชญานิศ ป้อมบุบผา และนายทิวัตถ์ ตรังวัชรกุล นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้คิดค้นผลงานนวัตกรรมการผลิตสารสร้างตะกอนธรรมชาติจากเมล็ดมะม่วงที่เป็นวัสดุที่เหลือใช้จากทางการเกษตรเพื่อใช้ในกระบวนการกำจัดสารแขวนลอยต่างๆ ในน้ำ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้จากผลผลิตทางการเกษตร โดยกลุ่มนักศึกษาได้รับรางวัล 2 รางวัล คือ รางวัลเหรียญทองและรางวัลพิเศษจาก WORLD INVENTORS ASSOCIATOIN ที่งานประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ World Invention Innovation Contest 2018 ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
ผศ.ดร.ทรงเกียรติ ภัทรปัทมาวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. และอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ เล่าว่า กระบวนการโค-แอกกูเลชั่น (Coagulation) เป็นกระบวนการหนึ่งที่นิยมใช้ในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อการกำจัดความขุ่นและสารแขวนลอยต่างๆ โดยจะใช้สารสร้างตะกอนเพื่อรวมสารแขวนลอยให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้จมตัวได้เร็ว สารสร้างตะกอนที่นิยมใช้โดยทั่วไป คือ สารส้ม เฟอร์ริกคลอไรด์ และโพลิเมอร์ ซึ่งสารสร้างตะกอนแต่ละชนิดมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น สารส้มจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่าพีเอชในน้ำ สารเฟอร์ริกคลอไรด์จะส่งผลให้น้ำเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์ ส่วนสารโพลิเมอร์นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง
เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรและของเหลือใช้ต่าง ๆ จะมีสารอินทรีย์บางประเภทที่สามารถนำมาใช้เป็นสารสร้างตะกอนได้ ในการศึกษานี้จึงได้เลือกใช้เมล็ดมะม่วงเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการสกัดสารสร้างตะกอนธรรมชาติ โดยนำเมล็ดมะม่วงมาบดเป็นผงแล้วมาผสมกับตัวทำละลาย เมื่อผ่านกระบวนการสกัดต่างๆ สารละลายที่ได้จะมีลักษณะเป็นสารสร้างตะกอน โดยจากการทดสอบพบว่าสารสร้างตะกอนธรรมชาติจากเมล็ดมะม่วงมีความสามารถในการกำจัดความขุ่นมากถึงร้อยละ 90 โดยใช้ปริมาณสารละลายเพียง 2-4 มิลลิลิตรเท่านั้น ซึ่งประสิทธิภาพที่ได้ใกล้เคียงกับการใช้สารส้มในปริมาณเดียวกัน